เกี่ยวกับเรา
เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจคลีนิกเสริมความงาม ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

ศัลยกรรม เสริมความงาม
ทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีมาตรฐานความปลอดภัย มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดว้าว มั่นใจในคุณภาพ เพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสนใจจองคิวออนไลน์ได้เลยนะคะ
- ศัลยกรรม
- ผิวพรรณ
- เสริมความงาม
รายการทั้งหมด
VDO PRESENTATION
เรามีโปรโมชั่นให้ ราคาคุ้มค่าที่สุด คุณภาพทุกงาน บริการสุดประทับใจ
คลินิกเสริมความงามครบวงจรที่ให้บริการศัลยกรรมความงาม ดูแลผิวพรรณ และรูปร่างที่ได้สัดส่วนสวยงามโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คลินิกของเราผ่านการตรวจสอบ และได้รับมาตรฐานอย่างถูกต้อง
5 ข้อควรรู้! ช่วยยืดอายุโบท็อกซ์ให้คงประสิทธิภาพยาวนาน
Botox ตัวช่วยสำคัญที่สาวๆ หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะมีส่วนช่วยทำให้ใบหน้าของคุณทั้งเรียว เต่งตึง แลดูเด็กลง และยังช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีอีกด้วย แต่เนื่องจากโบท็อกซ์จะมีวันหมดอายุในตัวมันเอง และในบางพฤติกรรมของสาวๆ หากปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมก็อาจทำให้โบท็อกซ์สลายหายไปเร็วได้ด้วย ดังนั้น วันนี้เราจึงมีวิธีที่ช่วยให้โบท็อกซ์อยู่กับเราได้นานๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากกัน สาวๆ ต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันค่ะ
1.หมั่นขยับกล้ามเนื้อทันทีหลังจากฉีดโบท็อกซ์
หลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์เข้าไปแล้ว สิ่งที่ควรทำทันทีก็คือ การขยับหรือบริหารกล้ามเนื้อ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพราะวิธีนี้จะช่วยให้ตัวยาที่ฉีดเข้าไปสามารถดูดซึมได้เป็นอย่างดี สิ่งที่ไม่ควรทำหลังจากฉีดโบท็อกซ์ก็คือ การประคบเย็น เพราะจะเป็นการขัดขวางการดูดซึมของตัวยา ส่งผลทำให้การฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้ผลอย่างเต็มที่
2.งดนอนในแนวราบ
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ สาวๆ ควรงดนอนราบ และควรระมัดระวังในเรื่องของการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับของหัวใจ เพราะการนอนราบหรือก้มหน้าลงอาจจะทำให้โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพที่น้อยลง เนื่องจากเลือดจะไหลเวียนขึ้นมาที่บริเวณใบหน้าในปริมาณมากนั่นเอง
3.หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนทุกชนิด
ในช่วงการฉีดโบท็อกซ์ 2 สัปดาห์แรก ไม่ควรเผชิญกับแสงแดดหรือความร้อนทุกชนิด และควรงดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เนื่องจากความร้อนจะทำให้โบท็อกซ์ย่อยสลายเร็วขึ้น
4.งดทานอาหารต้องห้ามบางประเภท
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ สิ่งที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษก็คือ การเลือกทานอาหารในแต่ละครั้ง เพราะอาหารบางประเภทมีส่วนต่อการทำลายประสิทธิภาพของตัวยาที่ฉีดเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารปิ้งย่าง อาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน อาหารประเภทหมักดองทุกชนิด และควรงดสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารหลากหลายชนิดที่ส่งผลต่อการขยายหลอดเลือด โดยเฉพาะในช่วง 7-14 วันหลังจากฉีดโบท็อกซ์ต้องใส่ใจในเรื่องการทานอาหารมากเป็นพิเศษ
5.เลือกทานอาหารที่มีสารอาหารประเภทซิงค์
การทานอาหารที่มีสารอาหารประเภทซิงค์ทั้งก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ จะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เร็วและดียิ่งขึ้น ซึ่งอาหารประเภทนี้ได้แก่ อาหารทะเล หอยนางรม ไข่แดง และตับ
การให้ความสำคัญและใส่ใจหลังจากฉีดโบท็อกซ์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานอย่างมีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยแก่ร่างกายของเราได้ดีอีกด้วย ดังนั้นเพื่อคงไว้ซึ่งผิวหน้าที่เรียวและเต่งตึงพร้อมทั้งมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย แนะนำให้ใส่ใจในการดูแลตัวเองหลังจากฉีดโบท็อกซ์จะเป็นการดีที่สุด
ที่มา https://www.sanook.com/women/173081/
กินอาหารลดน้ำหนักแต่ละมื้ออย่างไรให้ห่างไกลความอ้วน
ปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน เป็นปัญหาใหญ่ของสาวๆ ที่รักสุขภาพและความสวยความงามอย่างมากทีเดียว ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักจึงขายดีหลายยุคหลายสมัย แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาหารธรรมดาที่เรารับประทานในชีวิตประจำวันก็สามารถทำให้สาวๆ สามารถควบคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนักให้อยู่ในมาตรฐานได้ เพียงแต่ต้องรู้จักเลือกกินให้เป็นเท่านั้น ซึ่งเราก็มีวิธีกินอาหารลดน้ำหนักอย่างเหมาะสมมาฝาก ต้องทำอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันค่ะ
อาหารลดน้ำหนักมื้อเช้า
ในบรรดาอาหารทุกมื้อ มื้อเช้าจัดว่าเป็นมื้อสำคัญที่สุดในชีวิตประจำวัน เพราะร่างกายอดอาหารมาตลอดทั้งคืน แน่นอนว่าย่อมต้องการอาหารเช้าไปเติมพลังงานให้กับร่างกายและสมอง เพื่อให้มีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน และยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน รวมถึงโรคหัวใจมากกว่าคนที่ไม่ทานอาหารเช้าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด ของหวาน ขนมปังหรือข้าวขัดขาวไปพร้อมกันด้วย และสำหรับเมนูอาหารที่แนะนำยามเช้าก็คือ
- ขนมปังโฮลวีทกับไข่ดาว สลัดผักผลไม้ เพราะมีกากใยอาหาร กินแล้วอิ่มง่าย เหมาะกับความรีบเร่งในตอนเช้า
- โจ๊กหมูกับผลไม้ได้สารอาหารครบ
- แกงจืด ข้าวกล้องร้อนๆ ผลไม้
- ข้าวต้มทะเล
- แซนวิชทูน่า น้ำผลไม้
- นมจืดใส่ซีเรียลอะโวคาโด แอลมอน และผลไม้
อาหารลดน้ำหนักมื้อกลางวัน
ไม่ควรปล่อยให้ห่างจากมื้อเช้านานเกิน 5 ชั่วโมงเด็ดขาด สาวๆ ควรเลือกทานอาหารที่ให้พลังงานสูง เพราะตอนกลางวันเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการการดูดซึมสารอาหารไปใช้ต่อเนื่องกับมื้อเช้า ดังนั้น จึงไม่ควรทานน้ำหวานและน้ำอัดลม สำหรับเมนูอาหารที่แนะนำคือ
- ก๋วยเตี๋ยว น้ำผลไม้สดแบบไม่ใส่น้ำตาลมากเกินไป
- ข้าวกล้อง เกาเหลา
- สุกี้น้ำ
- ข้าวเหนียว ส้มตำ และไก่ย่าง (เลาะหนังออก)
อาหารลดน้ำหนักมื้อเย็น
มื้อเย็น เป็นช่วงที่ร่างกายไม่ต้องการอาหารมากนัก ดังนั้น สาวๆ จึงควรทานให้น้อย แต่ทานแบบให้อิ่มสบายท้อง แต่หลายคนมักเน้นมื้อเย็นเป็นมื้อหนัก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ช่วงเย็นร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานและยังถือเป็นช่วงเวลาที่เตรียมจะเข้านอนในอีกไม่ช้า ดังนั้น หากเลย 5 โมงเย็นไปแล้วก็ไม่ควรกินอาหารแล้ว เพราะอาหารที่กินเข้าไปเมื่อไม่ได้ถูกดึงไปใช้ในรูปแบบพลังงานก็จะเกิดการสะสมตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งจะทำให้อ้วนง่าย และอาหารเย็นก็ไม่ควรมีส่วนประกอบของแป้งหรือน้ำตาลอีกด้วย เพราะนอกจากอ้วนง่ายแล้ว ยังส่งผลเสียแก่สุขภาพในระยะยาวนั่นเอง สำหรับเมนูอาหารเย็นที่ขอแนะนำ คือ
- ผลไม้ที่ไม่หวาน
- เมี่ยงปลาทู
- สลัดผัก
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
สาวๆ หลายคนล้วนอยากมีหุ่นสวย ดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องกินอาหารลดน้ำหนักในแต่ละมื้อที่เหมาะสมถูกต้อง และควรหมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ รับรองค่ะว่าการมีรูปร่างที่สวยเพรียวจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.sanook.com/women/100655/
รีวิวลูกค้าจริง J-CLINIC
ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่รีวิวให้ ทางเราจะพัฒนาการให้บริการดียิ่งขึ้นค่ะ